สมาคมกีฬาไล่บี้กองทุนฯ ข้องใจ3ประเด็น

พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ประธานสหพันธ์สมาคมกีฬาชาติ หรือ ฟอนซ่า เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารฟอนซ่า มีผู้แทนสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย เข้าร่วมพร้อมหน้า ที่ห้องประชุม 217 ราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 66

ที่ประชุมหารือถึงปัญหา ที่สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ได้รับผลกระทบจาก การปฏิบัติงานของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ พล.ต.อินทรัตน์ กล่าวว่า สมาคมมีปัญหาในการได้รับการจัดสรรงบประมาณมานานแล้ว หลายสมาคมกีฬาต้องใช้งบประมาณในการพัฒนากีฬาเป็นเลิศได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่ต้องใช้งบประมาณในการคัดเลือกเพื่อไปร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 หลายสมาคมไม่สามารถส่งนักกีฬาเข้ารับการคัดเลือกได้ เนื่องจากได้รับงบประมาณไม่เพียงพอ จึงนัดประชุมกับคณะกรรมการเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา

ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า จะส่งเรื่องให้ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบการทำงานของกองทุนฯ ใน 3 ประเด็น ทั้งเรื่อง ประเด็นของผลประโยชน์ทับซ้อน, การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และ การใช้อำนาจอนุมัติการเบิกจ่ายเงินว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ โดย พล.ต.อินทรัตน์ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ ให้ส่งเรื่องไปให้หน่วยงานต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบการทำงานของกองทุนฯ คาดว่าจะส่งหนังสือได้ในต้นสัปดาห์หน้า เรื่องนี้จำเป็นต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ ที่ประชุม ยังได้กำหนดชนิดกีฬาเป้าหมายและชนิดกีฬาทั่วไป ในการเตรียมนักกีฬาไปโอลิมปิกเกมส์ ทั้งใน โอลิมปิก ปารีส 2024 และ โอลิมปิก แอลเอ 2028 โดย ฟอนซ่า ได้เห็นชอบให้มีการวางเป้าหมายไว้ 3 กลุ่ม ที่จะดำเนินการผลักดัน เริ่มจาก กลุ่มแรก เป็นกลุ่มกีฬาบังคับ ได้แก่ กรีฑา ว่ายน้ำ และยิมนาสติก กลุ่มที่ 2 กีฬาหวังเหรียญ ได้แก่ เทควันโด มวยสากล แบดมินตัน กอล์ฟ ยิงปืน-ยิงเป้าบิน และยกน้ำหนัก และกลุ่มที่ 3 คือ กีฬาความหวัง ได้เข้าร่วมการแข่งขัน ได้แก่ ขี่ม้า ยูโด จักรยาน ฟันดาบ เรือใบ เรือพาย เทนนิส เอ็กซ์ตรีม-ปีนหน้าผา เทเบิลเทนนิส ยิงธนู วอลเลย์บอลในร่ม วินด์เซิร์ฟ และกีฬาเพิ่มเติมอื่น ๆ ที่มีโอกาสที่จะเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ พร้อมกันนี้ยังได้เสนอให้เชิญ นพ.มีชัย อินวู๊ด ที่ปรึกษา 10 ของกกท. มาเป็นประธานคณะทำงาน ดูแลในเรื่องนี้ด้วย